ตามพระราชบัญญัติการประกอบธุรกิจข้อมูลเครดิต พ.ศ. 2545 มาตรา 25 เพื่อประโยชน์ในการคุ้มครองให้ความเป็นธรรมแก่เจ้าของข้อมูลให้เจ้าของ ข้อมูล มีสิทธิที่จะตรวจสอบข้อมูลของตน โดยบริษัท ข้อมูลเครดิตแห่งชาติ จำกัด มีความยินดีที่ให้ท่านตรวจสอบข้อมูล ดังนี้ ณ ที่ทำการบริษัท (ศูนย์บริการตรวจสอบเครดิตบูโร) มีขั้นตอนดังนี้ 1. เจ้าของข้อมูลมาติดต่อด้วยตนเอง แสดงเอกสารหลักฐาน ดังนี้ กรณีบุคคลธรรมดา บัตรประจำตัวประชาชน หรือหนังสือเดินทาง หรือบัตรประจำตัวบุคคลต่างด้าวตัวจริงนำมาแสดง กรณีนิติบุคคล สำเนาหนังสือรับรองของนิติบุคคล ที่รับรองไว้ไม่เกิน 3 เดือน และลงนามรับรองความถูกต้องโดยกรรมดารผู้มีอำนาจ สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน หรือสำเนาหนังสือเดินทางของกรรมการผู้มีอำนาจ และลงนามรับรองความถูกต้อง พร้อมตัวจริงนำมาแสดง ตราประทับของนิติบุคคล (ถ้ามี) เพื่อใช้ประกอบการยื่นขอคำขอตรวจสอบข้อมูลเครดิต 2. เจ้าของข้อมูลมอบอำนาจให้บุคคลอื่นมาดำเนินการแทน แสดงเอกสารหลักฐาน ดังนี้ กรณีบุคคลธรรมดา หนังสือมอบอำนาจบุคคลธรรมดา กรอกรายละเอียดและลงนามให้สมบูรณ์ครบถ้วน สำเนาบัตรประจำตัวประชาชนของผู้มอบอำนาจ และลงนามรับรองความถูกต้อง พร้อมตัวจริงมาแสดง สำเนาบัตรประจำตัวประชาชนของผู้รับมอบอำนาจ และลงนามรับรองความถูกต้อง พร้อมตัวจริงมาแสดง กรณีนิติบุคคล หนังสือมอบอำนาจนิติบุคคล กรอกรายละเอียดและลงนามให้สมบูรณ์ครบถ้วน สำเนาหนังสือรับรองของนิติบุคคล ที่รับรองไว้ไม้เกิน 3 เดือน และลงนามรับรองความถูกต้องโดยกรรมการผู้มีอำนาจประทับตราของนิติบุคคล (ถ้ามี) สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน หรือสำเนาหนังสือเดินทางของกรรมการผู้มีอำนาจลงนาม และลงนามรับรองความถูกต้องพร้อมตัวจริงนำมาแสดง สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน หรือสำเนาหนังสือเดินทางของผู้รับมอบอำนาจ และลงนามรับรองความถูกต้อง พร้อมตัวจริงนำมาแสดง * ยื่นเอกสารในข้อ 1 และชำระค่าธรรมเนียมในการตรวจสอบข้อมูลเครติดต่อเจ้าหน้าที่ของบริษัท * เจ้าของข้อมูลสามารถขอรับรายงานภายในวันยื่นคำขอ หรือยื่นความจำนงให้จัดส่งรายงานทางไปรษณีย์ลงทะเบียน (กรณีให้จัดส่งทางไปรษณีย์ลงทะเบียน ฉบับละ 20 บาท) สถานที่ตรวจสอบข้อมูลเครดิต ศูนย์บริการตรวจสอบบูโร 2 แห่ง ดังนี้ ส่วนบริหารเจ้าของข้อมูล บริษัท ข้อมูลเครดิตแห่งชาติ จำกัด อาคาร 2 ชั้น 2 ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (สำนักงานใหญ่) เลขที่ 63 ถนนพระราม 9 แขวงห้วยขวาง เขตห้วยขวาง กรุงเทพฯ 10320 โทรศัพท์ : (66) 02-643-1250 โทรสาร: (66) 02-612-5895 เวลาทำการ วันจันทร์-วันศุกร์ เวลา 09.00 น. - 16.30 น. สถานีรถไฟฟ้า BTS ศาลาแดง (ด้านในสถานี) เวลาทำการ วันจันทร์-วันศุกร์ เวลา 09.00 น. - 18.00 น. (*ตรวจสอบเครดิตบูโรเฉพาะบุคคลธรรมดาเท่านั้น) ห้างเจเวนิว (นวนคร) ติดโรงพยาบาลนวนคร เปิดทำการทุกวัน เวลา 10.00 น. - 19.00 น. หยุดนักขัตฤกษ์ (*ตรวจสอบเครดิตบูโรเฉพาะบุคคลธรรมดาเท่านั้น) มาทำความรู้จักกับเครดิตบูโร แบล็คลิสต์ กันดีกว่าครับ ? คนที่คิดจะผ่อนบ้าน ผ่อนรถ ขอสินเชื่อเงินกู้ จะถามว่า เขาจะกู้ผ่านหรือไม่ ไม่รู้เครดิตดีหรือเปล่า เพราะเคยจ่ายหนี้ช้า หยุดจ่าย หรือ ผ่อนจ่ายขั้นต่ำเวลาที่เราจะกู้ซื้อบ้าน ซื้อรถ หรือ กู้เงินก็ตาม ทางธนาคาร หรือ บริษัทไฟแนนซ์ จะให้เราเซ็นต์ยินยอมให้ธนาคาร หรือ ไฟแนนซ์ ตรวจสอบข้อมูลเครดิตจากเครดิตบูโร บางคนเข้าใจว่า เครดิตบูโร กับ แบล็คลิสต์ คืออย่างเดียวกัน เราจึงกลัวจะติดแบล็คลิสต์ หากเคยมีประวัติการจ่ายหนี้ไม่ดี "ความจริงแล้ว รายงานข้อมูลเครดิตจากเครดิตบูโรนั้น ไม่ใช่รายงาน แบล็คลิสต์ แต่อย่างใด" แบล็กลิสต์ นั้นหมายถึง เรามีประวัติเสียในเรื่องการเงิน จนถูกขึ้นบัญชีแบล็คลิสต์ไว้ ซึ่งหมายถึง การให้สถานภาพบุคคลเป็นภาพนิ่งภาพเดียว แต่ เครดิตบูโร นั้นเป็นการรายงานข้อมูลเครดิตตลอดช่วงระยะเวลาหนึ่งโดยจะแสดงประวัติการชำระสินเชื่อย้อนหลัง ไม่เกิน 24 เดือน ดังนั้น หากประวัติการชำระสินเชื่อในอดีต ของเรา ไม่ดีนักเราต้องพยายาม หาทางชำระหนี้ให้ตรงตามเงื่อนไขกับสถาบันการเงิน ที่เราติดหนี้ไว้ เพื่อให้มีประวัติใหม่ ที่ดูดีกว่าประวัติเดิม แต่ไม่สามารถไปเปลี่ยนแปลงประวัติเดิมได้ เว้นแต่เมื่อผ่านไปชั่วระยะเวลาหนึ่ง เช่น 24 เดือนข้อมูลเดิมที่เรามีประวัติไม่ดี ก็จะไม่ปรากฏในรายงานอีกต่อไป ข้อมูลประวัติการจ่ายหนี้สินเชื่อ จากเครดิตบูโรนั้นจึงเป็นข้อมูลที่มีลักษณะเคลื่อนไหว ไม่ได้นิ่ง เหมือนแบล็คลิสต์จึงมีความแตกต่างกัน มารู้จักกับเครดิตบูโร กันสักนิด เครดิตบูโร (Credit Bureau) หรือ บริษัทข้อมูลเครดิตแห่งชาติ คือบริษัทที่ทำหน้าที่รวบรวมข้อมูลเครดิตจากสถาบันการเงิน ที่เป็นสมาชิก เมื่อมีสถาบันการเงินที่จะปล่อยสินเชื่อ เงินกู้ทั้งหลาย หรือลูกค้าที่เป็นเจ้าของข้อมูลเองต้องการ ก็จะสามารถยื่นคำขอรายงานข้อมูลเครดิตมาได้ ซึ่งในรายงานนั้น จะประกอบด้วย ข้อมูลข้อเท็จจริง เกี่ยวกับคุณสมบัติของลูกค้าที่ขอสินเชื่อ ประวัติการขอสินเชื่อ ประวัติการได้รับอนุมัติสินเชื่อ และ การชำระสินเชื่อ รวมถึง ประวัติการชำระค่าสินค้าหรือบริการด้วยบัตรเครดิต เครดิตบูโรจะไม่มีข้อมูลที่เกี่ยวกับ ทรัพย์สินส่วนตัวหรือ ข้อมูลบัญชีเงินฝาก ของบุคคลผู้นั้น จะรายงานเพียงข้อมูลทางด้านสินเชื่อเท่านั้น ส่วนในกรณี ที่เรายื่นเรื่องกู้ แล้วไม่ผ่าน หากธนาคารหรือสถาบันการเงินที่ปล่อยกู้ แจ้งว่าเรามีประวัติการเงินที่ไม่ดี จากเครดิตบูโร เราสามารถขอดูประวัติการชำระสินเชื่อของเราจากเครดิตบูโรได้ โดยเสียค่าธรรมเนียมในการขอ 200 บาท เราจะได้ทราบว่า เรามีประวัติการชำระสินเชื่ออย่างไร และเราจะได้แก้ไขปรับปรุงประวัติการชำระสินเชื่อให้ดีในอนาคตได้อย่างไร การไม่ก่อหนี้สินนั้นเป็นสิ่งที่ดีที่สุดแต่หากจำเป็นที่จะต้องก่อหนี้สิน เช่น ผ่อนบ้าน ผ่อนรถก็ขอให้ดูความสามารถในการผ่อนชำระของเราด้วย อย่าผ่อนบ้านหรือรถ ที่เกินกำลังเราเด็ดขาดเพราะจะทำให้เราไม่สามารถผ่อนไหวจนต้องเสียเครดิต เสียดอกเบี้ย เบี้ยปรับที่แพงมากและสุดท้าย อาจต้องขายบ้านหรือรถ นั้นไป หรือปล่อยให้เขามายึดบ้านหรือรถของเราไป หรือถูกฟ้องดำเนินคดีได้ ซึ่งจะทำให้เราเสียเครดิตอย่างมากทีเดียว เมื่อถึงคราวจำเป็นที่เราจำเป็นต้องใช้เครดิตก็ทำให้เราติดปัญหากู้ไม่ผ่าน ไม่ได้รับอนุมัติ นั่นเอง เครดิตบูโร คือ บุคคล หรือหน่วยงาน หรือองค์กร ที่ตั้งขึ้นมาเพื่อรวบรวมข้อมูลมาเก็บไว้ โดยมุ่งหมาย(ตามที่เขาพยายามบอก)ให้เป็นองค์กรกลาง และให้บริการข้อมูลที่เก็บไว้แก่สมาชิกหรือบุคคลทั่วไป ข้อมูลที่เก็บไว้(ตามที่เขาเรียกว่าข้อมูลเครดิต) มี 2 ส่วน คือ ข้อมูลส่วนตัว เช่น ชื่อ นามสกุล เลขประจำตัวประชาชน เขาเรียกว่าข้อมูลระบุตัว และข้อมูลการเป็นหนี้ ข้อมูลการเป็นหนี้นี้มี 2 แบบ คือ ข้อมูลที่เป็นกลางๆ และข้อมูลหนี้เสียที่เรียกกันว่า BLACK LIST โครงสร้างของเครดิตบูโร จะต้องเป็นบริษัท ห้ามผูกขาดการประกอบธุรกิจข้อมูลเครดิต(เครดิตบูโรมีมากกว่า 1 บริษัทได้) ให้บริการกับสมาชิกและสมาชิกเท่านั้นที่ส่งข้อมูลเข้าไปเก็บได้ ผู้ที่จะเป็นสมาชิกของเครดิตบูโรได้ จะต้องเป็นสถาบันการเงินเท่านั้น การส่งข้อมูล การใช้บริการ(ตรวจสอบข้อมูล) จะต้องอยู่ภายใต้การควบคุมโดยคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลเครดิต การฝ่าฝืนมีโทษอาญา สาระสำคัญของกฎหมายฉบับนี้ ให้บริษัทข้อมูลเครดิตเท่านั้นประกอบธุรกิจข้อมูลเครดิตได้ (ห้ามผูกขาด ?) ห้ามมิให้ผู้ใดประกาศหรือโฆษณาว่าแก้ไขข้อมูลได้ ห้ามมิให้ใครกีดกันหรือขัดขวางการให้ข้อมูลแก่บริษัทข้อมูลเครดิต (ต่อไปนี้จะเรียกว่า เครดิตบูโร) หรือทำให้เกิดการผูกขาดการประกอบธุรกิจข้อมูลเครดิต การฝ่าฝืนมีโทษจำคุก 5-10 ปี หรือปรับไม่เกิน 500,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ในส่วนของการให้ความคุ้มครองเจ้าของข้อมูล เมื่อสมาชิกส่งข้อมูลแล้วต้องแจ้งเจ้าของข้อมูลทราบภายใน 30 วัน ฝ่าฝืน(ไม่แจ้ง)มีโทษจำคุณ 5-10 ปีหรือปรับไม่เกิน 500,000 บาทหรือทั้งจำทั้งปรับ การส่งข้อมูลต้องส่งข้อมูลที่ถูกต้องและ ทันสมัยอยู่เสมอ ถ้ารู้ว่ามีความไม่ถูกต้องต้องแก้ไขและจัดส่งข้อมูลที่ถูกต้องให้เครดิตบูโร ฝ่าฝืนมีโทษปรับไม่เกิน 300,000 บาท และปรับอีกวันละ 10,000 บาทจนกว่าจะแก้ไขให้ถูกต้อง(แต่เปรียบเทียบปรับได้) การเปิดเผยข้อมูลต้องได้รับความยินยอมเป็นหนังสือจากเจ้าของข้อมูล เว้นแต่เป็นกรณีที่จำเป็นตามกฎหมาย เช่น คำสั่งศาล ฯลฯ เป็นต้น ฝ่าฝืนมีโทษจำคุก 5-10 ปี หรือปรับไม่เกิน 500,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ผู้ใช้บริการ(ที่ได้รับข้อมูลไป)ต้องใช้ข้อมูลตามวัตถุประสงค์ ตามมาตรา 20 เท่านั้น และห้ามมิให้เปิดเผยข้อมูลแก่ผู้อื่นที่ไม่มีสิทธิรับรู้ข้อมูล ฝ่าฝืนมีโทษจำคุก 5-10 ปี หรือปรับไม่เกิน 500,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ส่วนผู้ที่ได้รับข้อมูลด้วยวิธีอื่น เช่น คำสั่งศาล ฯลฯ ต้องเก็บข้อมูลไว้เป็นความลับ (แต่มีข้อยกเว้น) ฝ่าฝืนมีโทษจำคุก 5-10 ปี หรือปรับไม่เกิน 500,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ เจ้าของข้อมูลมีสิทธิ์ทราบข้อมูลของตนจากเครดิตบูโรได้ แต่เครดิตบูโรมีอำนาจเรียกเก็บค่าธรรมเนียมการตรวจสอบข้อมูลได้ตามที่คณะ กรรมการกำหนดแต่ต้องไม่เกิน 200 บาท
ซื้อบ้าน ขายบ้าน ติดปัญหา ปรึกษาเรา ยกทุกปัญหาการขายบ้าน ให้ทีมงานมืออาชีพ
บริษัท นัมเบอร์วัน โบรกเกอร์ จำกัด 02 - 5917860 , 083 - 6864440
|